วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

นั่งรถไฟไปมาเล ยลมะละกา ฮาต่อที่สิงค์โป





                                   แบกเป้ตามใจฉัน  สไตล์ดอกไม้ทะเลทราย

2-6 มิย 55 นี้ค่ะ นั่งรถไฟ ไปปีนัง ต่อไปมะละกา เข้าสิงค์โปร กลับเครื่อง งบประมาณ 6000+++
เริ่มเดินทาง วันที่ 2 มิ ย นะคะ ด้วยรถไฟ สายบัตเอร์เวิตร์ สูปีนัง ถึงวันที่ 3 ตอนบ่ายๆ 
ใช้เวลาในปีนัง จนถึง รถรอบ 5 ทุ่ม จึงนั่งต่อไ มะละกา นอนที่มะละกา 1 คืน วันที่ 5 จึงนั่งรถบัส ต่อไปสิงค์โปร นอนที่ สิงค์โปร 1 คืน ในย่าน ใชน่าทาวน์ วันที่ 6 จึงกลับ ไทย ด้วยเครื่องบิน 
หลังจากจองตั๋วทั้งเครื่องบิน รถไฟแล้ว จะแพงก้อตรงตั๋วเครื่องบินที่ราคาเพิ่มจากที่คิดไว้ไปสักหน่อย ทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7000++ แล้วค่ะ 
แต่คิดว่าไม่มีไรเพิ่มเติมแล้ว เพราะทุกอย่างได้จองและจ่ายชำระไปล่วงหน้าหมดแว้ววววว 
มีเพื่อนร่วมทริปเพิ่ม อีก 2 คน ทำให้ทริปนี้ มี 3คน ที่ยืนยันกันด้วยตั๋วแล้วทุกอย่าง แล้วไปพบกับเพื่อนอีกกลุ่มนึง ซึ่งเขาไปกันทางสิงค์โปร แต่นัดพบกันที่มะละกา ในวันที่ 4 มิ ย 55 แล้วพบกันน้าา




เริ่มต้นด้วยการซื้อตั๋วรถไฟ สาย กรุงเทพ บัตเตอร์เวิทร์ เราเลือกที่นั่ง ที่จะเปลี่ยนเป้นเตียงล่าง 
เพราะมันนอนสบายกว่า ข้างบน ราคาแพงกว่านิดหน่อย เราจ่ายไปในราคา 1200++ 
ขึ้นที่หัวลำโพง เที่ยวเย็น และจะไปถึงบัตเตอร์เวิทร์ในวันรุ่งขึ้นประมาณ บ่ายๆ 





สภาพเตียงล่าง ของเรา อิอิอิ หลับสบายมั่กมาก แถมที่นี่ยังมีปลั๊กไฟให้ด้วยนะ ลองดูตามหัวเสา 
ละกัน เผื่อไว้ชาร์ต โทรศัพท์ ไรต่อไร ได้ พอประมาณ แต่ต้องคุมด้วยล่ะ เด๋วหายยยยย มีตู้เสบียงสั่งอาหารกินบนนี้ได้ เราไปขึ้นที่หัวลำโพง ชิว ชิว พร้อมๆ กับพี่ๆ อีก 2 คน ที่ตีตั๋วไปด้วยกัน 
ตอนแรกไปคนเดียว แต่พอพี่ๆ เขามาด้วย เราก้อเย้ เย้ เย้ เลย ดีใจ อิอิอิ



พี่ๆ ทั้งสอง อิอิอิอิ ผู้ร่วมทริปกะเรา 555555 พี่ยา กะพี่จู จะมาแบกเป้ยาวไปกะเรา
จนถึงสิงค์โปรเลย อิอิอิ





หลังจากสมาชิกครบทีมแล้ว เราเลือกเตียงล่างเหมือนกันทั้งหมด จึงได้นั่นกันคนละที่ 
แต่เบาะ ก้อยังมานั่งเล่นกันได้ สองคน ก้อนั่งยาวกันไป ซื้อเบียร์ มาจิบๆ เบา กันไป พอขำ ขำ 
พอค่ำ ก้อสั่งอาหารมากินกัน มีให้เลือกหลายอย่าง ก้อเลือกสั่งมากินได้ตามใจชอบ กินเสร็จ
ก้อเรียกพนักงานมาจัดเตียงเพื่อนอนพักผ่อน จึงแยกย้ายไปเตียงใครเตียงมัน ชอบอ่ะ อิอิอิ 
หลับสบายดี แอร์เย็นเจี๊๊ยบ นั่งไปจนเช้า สายๆ ก้อถึงหาดใหญ่ ก้อซื้อไก่ทอด 
ข้าวเหนียวไว้เป็นเสบียงเอาแรงกันต่อไป ก่อนจะเข้าด่านปาดังเบซาร์ 





ถึงด่านปาดังเบซาร์ เราก้อต้องแบกเป๋าลงไป ด่าน ตม เพื่อทำเรื่องผ่านแดน เตรียมปากกาไปกรอกใบผ่านให้เรียบร้อย ทั้งฝั่งไทย ฝั่งมาเลเซีย มีที่แลกเงินด้วยนะ ถ้าไม่คิดมาก้อแลกได้เลย
จากด่านปาดังเบซาร์ ทำเรื่องเสร็จแล้ว ใช้การพิมพ์นิ้วชี้นะทั้งสองข้าง อิอิอิ ด้วยระบบดิจิตอล
 เรารอรถไฟเปลี่ยนหัวขบวน เป็นของมาเลเซีย แล้วเดินทางต่อเข้าบัตเตอร์เวิทร์ เย้ เย้ เย้
 เราถึงบัตเตอร์เวิทร์ ตอนบ่ายกว่าๆ ก้อลง เพื่อข้ามเฟอรี่ ไปเกาะปีนัง ในราคา 10++ บาท
 ราคาข้ามเรือเฟอรี่   คนเป็นแสนอ่าา แขกเยอะม๊วกกกก





ว้าว เกาะปีนัง ฝั่งขะโน้นนนนน ดีใจจัง ในที่สุดเราก้อมาถึง ความฝันที่จะแบกเป้นั่งรถไฟไปปีนัง เข้ามาเล ไปมะละกา ไปสิงค์โปร วันนี้ เป็นจริงแล้วอ่าาาาาาาาาา เพราะแผนนี้เป็นแผนแรกๆ ที่เราอยากจะทำมัน แต่ก็ไปสิงค์โปรมาก่อนหน้านี้แล้ว อิอิอิ คราวนี้กลับจากหลวงพระบางปุ้บ ก้อไปปั๊บเลย อิอิอิ



พอถึงฝั่งปีนัง เราก้อต่อรถเมล์ ไป ยังตึกคอมต้า คือพูดง่ายๆ ว่า คิดไม่ออก เยี่ยวไม่ออก 
ไปตึกคอมต้าก่อน เพราะที่นั่นจะเป็นศุนย์รวม รถเมล์ทุกสาย มีห้างสรรพสินค้า ให้ ช๊อปปิ้งได้อีกด้วย เป็นศุนย์รวมเลยแหละ เราก้อได้จองตั๋วรถไปมะละกา จากที่นี่แหละ จะมีบริษัทที่ขายตั๋วอยู่ 
วันนี้เราไม่ค้างที่ปีนัง แต่เราจะไปมะละกาในตอน 5 ทุ่ม เพื่อไปให้ถึงมะละกา เช้า
เป็นการประหยัดค่าโรงแรมไปในตัว อิอิอิ



จุดหมายแรก เราเล็งไปที่ ปีนังฮิลล์ ออกจากตัวเมืองไปหนอ่ย ที่นี่ดีอย่าง ป้ายรถเมล์ จะบอกหมดว่า แต่ละสายไปไหนบ้าง ไม่มีเราก้อไปขอแผนที่ได้ แต่พอไปถึงปีนังฮิลลืแล้ว ปรากฎว่าค่าขึ้นคนละ 300 บาท เราคำนวณดูแล้ว 3 คน 900 เราเก็บเงินไว้ดีกว่า เพราะวิวของปีนังเราก้อไม่ได้อยากดูเท่าไร
 นั่งรถเมล์รอบเมืองดูดีกว่า มันส์กว่ากันเยอะ 900 เก็บไปซื้อไรกินดีกว่าเพราะยังต้องไปกันอีกไกล 



ระหว่างกลับมีงานบุชาเทพของชาวอินเดียด้วย รถเลยติดนิดหน่อย 
แต่นักท่องเที่ยวอย่างเราก้อชอบดิ อิอิอิอิ 



เราเลยเลือกว่า งั้นไปลงย่านเมืองเก่าดีกว่า ตรงนี้คือ ซิตี้ฮอล เดินดูตึกเก่าๆ 
และก้อมีอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ อยู่ที่ริมอ่าวด้วย แถมยังมีงานของดีอินโดนีเชียด้วย




เราก้อเดินดูนั่น ดูโชว์จากบาหลี มีนักร้อง นักดนตรี สวยดีอ่ะ เลยมีฝันภาคต่อ ที่บาหลี อิอิอิอิ 
กะลังเซ็ทเวลาอยู่ แล้วเราเลยหาไรหร่อยๆ กินดีกว่า ฝากท้องสำหรับมื้อเย็นไว้ที่นี่เลย ยิปปี้ 



เราได้ไก้สะเต้ะ กินกะข้าวปั้นตัดเป็นก้อนสี่แแหลี่ยมๆ ราดน้ำซอสสไตล์บาหลี 
อบอวลไปด้วยเครื่องเทศ เผ็ดดี อร่อยด้วย ชอบๆ 




อันนี้ของพี่ยา เหมือนก๊วยจั๊บ หรือ ก๋วยเตี๋ยวอะไรสักอย่าง แต่ไม่น่ากินเลย อิอิอิอิ



ส่วนของลุงอีกคน เขาได้ ข้าวราดอูฐ มั้ง 555 เขาว่างั้นนะ เผ็ดไปหน่อยลุงแกกินไม่ไหว 
อ้าวว ก้อเสร็จโจรสิคร้าบบบบบบ เอิ๊กกกกกกกกก



อิ่มอร่อย ย่อยกันจนเย็นย่ำค่ำมืืด เราก้อไปรอรถเมล์ ต่อไปตึกคอมต้าดีกว่า เพราะเด่วต้องไปขึ้นรถ
ที่นั่น เพื่อไปมะละกา เราจองตั๋วกันไว้แล้ว อยู่ที่ คน ละ 5-600++ โดยประมาณ รึ 490 อะไรนี่แหละ
 ไม่แน่ใจ แหะ แหะ นานชักลืม 



ไปถึงตึกคอมต้า เราก้อไปหาห้องน้ำบนตึกห้างสรรพสินค้าดีกว่า ถือโอกาส ล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้้อผ้ากันเลย แบบอากาสร้อนและก้อเหนียวเนอะหนะด้วยย อ่าาาาาาาา เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก้อลงมานั่งเล่น นั่ง***มันบนทางนี่แหละ ชักเมื่อยแล้วอ่าาาาา ระหว่างที่รอเวลาไปมะละกา 
ก้อหาไรเบาๆ มานั่งขบเคี้ยวดีฝ่าาาา 



เรานั่งขโยกเขยกไปจนถึงมะละกาจนเช้าาา เมื่อยโครตๆ ทะลึ่งได้ที่นั่งหลังสุด 
แต่เหม็นบุหรี่แขก ***ๆ ไม่รุ จะสูบไรกันนักหนา สูบกันชนิดที่ว่า ไม่กลัวปอดทะลุกันเลย 
ไปถึงเช้าแล้ว สถานีขนส่งยังไม่เปิดดี เราก้อเข้าห้องน้ำรอเวลากันสักหน่อย แต่ก่่อนจะเข้าตัวเมืองมะละกา เราก้อจองตั๋วไปสิงคืโปรไว้เลย คนละ 300++ บาท อิอิอิอิ แล้วไปรอรถ 
สาย 17 ย้ำ สาย 17 นะคร้าบ เข้าตัวเมืองมะละกา เพื่อไปลงตรงโบสถ์แดง 




รถออกมาได้สักพัก อิอิอิ อย่าลืมนะ สำหรับการขึ้นรถที่มาเลเซีย ต้องขึ้นประตูหน้าเท่านั้นเพื่อจ่ายค่าตั๋ว และประตูกลางมีไว้ลง ห้ามไปขึ้นประตูกลางเด็ดขาด ไม่งั้นจะโดนโชเฟอร์ด่าเอานะ อิอิอิอิ รถวิ่งมาเรื่อยๆ เห็นสีแดงๆ แบบนี้ล่ะใช่แน่ กดกริ่งลงได้เลย ประเดี๋ยวจะเลยไปไหนต่อไหน 
ว้าว ว้าว ว้าว มาถึงแล้วนะ มะละกาที่รัก 555555555555





ระหว่างที่กะลังคลั่งกับโบสถ์แดงนั้น เราก้อได้พบใครคนหนึ่งตามนัดหมาย โลกนี้ไม่เคยมีอะไรบังเอิญ สาว ตม. ของเรา เธอก้อดั้นด้นมาจนพบกัน 



ไม่ใกล้ ไม่ไกล เราเดินลัดจากโบสถ์แดงไปหน่อย ก้อจะไปถึงที่พัก ที่เราจองไว้ คืนละ 500 บาท 
หารสองกะพี่ยา ห้องแอร์ มีอาหารเช้า ก้อพอได้นะ ห้องหับก้อถือว่าสะอาดดี ไปเก็บกระเป๋า 
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมาลุยใหม่ในรอบบ่าย เพราะเรายังไม่เจออ เซนต์ปอลล์เลย อิอิอิอิ 



เบา เบา กะห้องพัก เราก้อเดินสำรวจเมืองกันละคราวนี้ แดดจะรอ้นไปหน่อย ก้อหาได้หวั่นไหวไม่ อิอิอิ เดินดูนั่นดูนี่ จนรองเท้าแทบจะหลุดออกจากกัน 5555 



คราวนี้เราไปโบสถ์เซนต์ปอลล์ กันบ้าง ที่นี่จะอยู่ในโซนเดียวกันหมด เพราะเขาอนุรักษ์ไว้ให้เป็น
โซนมรดกโลก ได้รับอิทธิพลมาจาก ฮอลแลนด์ สถาปัตยกรรมก้อจะออกแนวๆ นั้น และ ในที่สุด



ในที่สุด เราก้อได้พบกันแล้วนะท่าน 
ตามมาใช้หนี้ท่านแล้ว ..................



ซาบซึ้งและก้ออิ่มเอมกันไปกับความมานะ พยายาม อิอิอิอิ ที่จะมาให้ถึงที่นี่ เราพักที่มะละกาคืนนึง ก่อนที่พรุ่งนี้เช้า จะนั่งรถบัสไปต่อที่สิงค์โปร เราได้เที่ยว 7 โมง ไปถึง สิงค์โปร คงจะบ่ายๆ ซึ่งก้อต้องแล้วแต่ ตม. สิงค์โปรอ่ะ ว่าจะช้าหรือเร็วในการตรวจคนเข้าเมือง



แผ่นหินจารึก อ่านมะออก 



ออกจากโบสถ์ เราก้อเดินลงทางด้านหลังไป ลงเนินเขาไปนิดหน่อย ก้อจะเจอ ประตูเก่า และถัดๆไป ก้อจะเป็นสถานที่ราชการต่างๆ มีพิพิธภัณฑ์ด้วย เราแวะถ่ายรูปกันไปกันมาอย่างหนุกหนาน



ก้อไม่รู้สินะ มีพรีเวดดิ้้ง แบบแขกด้วยย อ่าาา อิจฉาจัง อิอิ






หลังจากลัดเลาะกันไปมา หลงบ้างไรบ้างพอขำๆ ก้อได้เวลากลับที่พัก 
อาบน้าล้างคราบเหงื่อไคลกันสักหน่อยๆ อิอิอิ



พักผ่อน กันแล้ว ได้เวลา ก้อออกมาหาอาหารเย็นกินดีกว่า อิอิอิ เดินดูแสงสีกันก้อเพลินดีนะ 
มะละกายามค่ำคืนเนี่ย



ริมฝั้งแม่น้ำมะละกา อิอิอิ มีร้านอาหารด้วย แต่เราถามหาเบียร์ แต่ไม่มีขาย แหะ แหะ ลืมไป
 ประเทศมุสลิม อิอิอิ เลยเดินจากที่นี่ไปด้วยใจอาลัย เพราะ สมาชิกเห็นพ้องว่า 
เดินไปต่อที่อื่นดีกว่า เผื่อจะมีไรเด็ดๆ น่ากินกว่านี้ 



สรุป ก้อได้ร้านนึง คุยไปคุยมา อ้าวเจ้าของเป็นคนไทย ปัตตานี มาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งที่นี่
 เลยสั่งกันบึ้มเลย อิอิอิ ได้กินผัดกะเพราด้วยยย อร่อยที่สุด ก้อไม่รู้สินะ แด๊ก กันเรียบบบบบบ




อิ่มแล้วก้อกลับมานอน ชิว ชิว พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปต่อที่สิงค์โปร
 เราตื่นมาอาบน้้ำ กินอาหารเช้าของทางโรงแรม หนมปัง แยม เนย เท่าไร พวกใส่หมด
 ไม่เลี้ยงง 55555
 กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ของฟรีต้องยัดๆ เข้าไว้ 55555



ยัดกันจนอิ่ม ก้อเก็บเป๋า ไปหารถแท้กซี่ไปสถานีขนส่ง เราได้ในราคา 200 บาท 
หาร 4 ก้อคนละ 50 บาท เย้ เย้ เย้ 



แต่พอไปถึง สถานี ก้องานงอกเต็มๆ เพราะเราดันลืมเช็คตั๋ว ทะลึ่งออกให้เป็นเมื่อวาน ฮ่วยยย
 เถียงกันหน้าดำ หน้าแดง จนคนขับมา คนขับเลยเก็บของพี่หน่อยเพิ่ม แล้วพวกเราก้อเนียนขึ้นรถไป ผ่านด่านทั้งมาเล และเข้าด่านสิงค์โปร เรียบร้อย 
เราก้อข้ามทะเล ไปเกาะสิงค์โปรกัน เย้ เย้ เย้ หนุกหนานจิงว๊อยยยยย



ข้ามมาแล้ว รถก้อมาจอดตรงจุดส่งผู้โดยสาร เราก้อลงกัน หาที่แลกเงินเป็นเงินดอลล่าห์สิงค์โปร แถวนั้นแหละ มีที่แลกเยอะแยะ แล้วเราก้อหารถเมล์ ขึ้นเพื่อมาลง ที่ ย่านใชน่าทาาวน์ การขึ้นรถเมล์ที่นี่ เราสามารถอ่านจากป้ายได้ ชิว ชิว เขาจะบอกหมดว่าไปไหนด้วยสายอะไร เวลากี่โมง และรถไฟใต้ดิน ก้อสามารถเดินไปขึ้นได้ เกือบทั่วๆ ทั้งเมือง เราเคยมาสิงค์โปรแล้ว 1 รอบ ก่อนหน้านี้ แต่คราวก่อน บินไปกลับ แต่คราวนี้ นั่งรถมา แล้วค่อยบินกลับ ก้อหนุกดีอ่ะ



ไปลงย่านใชน่าทาวน์ หาที่พักที่จองมาจากเนต ของแบรรี่ เบสท์ ที่นี่จะอยู่นอกใชน่าทาวน์ นิดหน่อย แต่ก้อใกล้ MRT อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นแบรรี่กู้ด ก้อจะอยู่หน้า MRT ตรงถนนในตลาดใชน่าทาวน์เลย เริ่่ด สนนราคา 600++ ต่อหนึ่งคืน ห้องรวม มีอาหารเช้าให้ ไวไฟเร่ิด มีคอมบริการ มีห้องนั่งเล่น ห้องน้ำโอเค มี เจลอาบน้ำให้ ไดร์เป่าผม ใช้ได้เลย สำหรับใครมาคนเดียวพักที่นี่ก้อโอ ดี 
แต่ถ้ามีเพื่อน ก้ออาจจะหาโรงแรมใกล้ๆ ก้อได้ แชร์ค่าห้องแล้ว ก้อได้ห้องส่วนตัวไปเลย
 ใกล้ๆ กับแบรรี่ เบสท์ ก้อมี โรงแรม 81 ตั้งอยู่ 



เก็บข้าวของ แล้วก้่อไม่พูดพล่ามทำเพลง เรารีบพาสมาชิกไปเก็บบรรยากาสที่ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ กัน แต่คงไม่เข้าสวนสนุกหรอก เพราะค่าตั๋ว 1800 บาท แถมเวลาก้อไม่มีเพราะเราไปก้อบ่าย สอง แล้ว เลยไปเก็บอารมณ์ ยูนิเวอร์แซลนิดหน่อยดีกว่า อิอิอิอิ นั่งรถไฟยิงยาวเลย จากใชน่าทาวน์
 ไปลงห้างวีโว่ แล้วขึ้นไปชั้นบนของห้าง จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ๆ 
เพื่อไปขึ้นรถไฟข้ามเกาะไปเกาะเซ็นโตซ่า มีคาสิโน กับโรงแรมด้วยนะ จะบอกให้ อิอิอิ 



ถึงแว้ว สถานีแรก แต่ถ้าใครอยากรู้วิธีไปขึ้นเกาะเซ็นโตซ่า อาจจะไปดูรีวิวเก่าของเราในเฟสบุ้ค
ได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ 
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.164858670279734.33241.100002668050996&type=3 
บรรยายไว้แล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจก้อสอบถามได้นะคะ ตอบได้เท่าที่รู้จ้าาาา



แอบเหล่ในยูนิเวอร์แซล เจอเบ็ตตี้บู๊บ พอดี อิอิอิ 
ลิ้งค์นี้เป็นรีวิว แบบบินไปกลับ สิงค์โปรไทย https://www.facebook.com/media/set/?set=a.164808413618093.33234.100002668050996&type=3 
ลองอ่านดูนะคะ สำหรับใครที่อยากไปด้วยตัวเอง อิอิอิ



ออกจาสถานี วอเตอร์ฟร้อน เราก้อไปต่อสถานีอื่นๆ ในเกาะเซ็นโตซ่าด้วยรถไฟนั่นแหละ 
จ่ายครั้งเดียวตอนข้ามเกาะ ที่เหลือขึ้นฟรีไปรอบๆ ได้ มีอีกลายที่ แต่จริงๆ ก้อสามารถเดินได้ทั่ง
ทั้งเกาะเลยแหละ จะมีระบำน้ำพุตอบรอบ ค่ำด้วย แต่เนื่องจากเวลาจำกัด เราจำเป็นต้องกลับพรุ่งนี้ ตอนบ่าย จึงต้องรีบพาสมาชิกไปที่ อ่าวมาริน่าเบย์
เพื่อไปดูสิงโตพ่นน้ำ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยก้อว่าได้ นะ




แล้วก้อไปดูสิงค์โต ตัวพ่อกันสักหน่ยอ อิอิอิอิ เพราะใหญ่สุดๆ ส่วนตัวแม่กะตัวลูก
 ก้ออยู่ตรงอ่าวมาริน่าเบย์แหละ อิอิอิ




ชื่นใจแล้วก้อกลับดีกว่า ไปมาริน่าต่อ เราใช้วิธีซื้อตั๋ว แบบคืนบัตรเอา เพราะถ้าซื้อแบบตั๋วแบบเติมเงินเอา มันจะมีเงินกินเปล่าเป็นค่าบัตรตั้งหลายเหรียญ เราเสียดาย เลยยอมซื้อแบบ คืนบัตรดีกว่า อิอิอิอิ 



นั่งรถมาลง แล้วก้อเดินต่อไปอีกนิดห่น่อย ผ่านโรงแรมฟูลเลอร์ตัน โรงแรมที่หรูเว่อร์ 
อีกนึงโรงแรม เดินไปเรื่อยๆ จนเจอแว้วววววว อิอิอิ สมาชิกดี๊ด๊ากันใหญ่ 
เพราะเดินกันมาทั้งวัน
 เหนื่อยกันจะแย่แล้ววว



ว้าว ว้าว ว้าว เก็บภาพกันไปตามประสา แต่เรามะค่อยตื่นเต้นละ อิอิอิ ก้อเคยมาแล้วนี่นา 



รอแสงไฟมา จะได้เก็บภาพยามค่ำคืนของอ่าวมาริน่า ไฮไลท์ที่นี่ ก้อเป็น เมอริอ้อน เอสพลาเนด
 สิงค์โปรฟลายเออร์ และก้อโรงแรม ท่ี่เป็นรูปเรือ อยุู่ข้างบนนั่นอ่ะ จริงๆ บนนั้น สามารถขึ้นไปดูวิวได้ สวยมากขอบอก แต่ค่าขึ้นแพงหนอ่ย เราเลยเลือกที่จะไม่ขึ้น ก้อไม่จำเป็น่อ่ะนะ



ช่วงนี้เราก้อเก็บภาพความประทับใจระหว่างสมาชิก มีทั้งเสียงหัวเราะ เสียง บ่น เสียงด่า เสียงโต้เถึยงกันบ้างพอได้เฮฮา แต่สัญญาสิ ว่าไอ้ที่เถียงกันน่ะ เราไม่เคยเกลียดกันจ้าาาาาาาาา 5555555 



แล้วก้อพากันเดินกลับไป MRT เพื่อกลับไปย่านใชน่าทาวน์ หาไรกินด้วย อิอิอิ เหนื่อยจัง ทริปนี้ 



ไปหาไรกินย่านใชน่าทาวน์แหละ ข้าวผัดคนละจาน ประมาณคนละ 100++ แพงหน่อยก้อเยอะอยู่ สะดวกดี กินแล้วก้อกลับที่พัก อาบน้ำ ประแป้ง อมตัง นอน อิอิอิ เพราะตื่นมาเช้า ก้อแหกขี้หูขี้ตา 
ไปสำรวจย่านใชน่าทาวน์ ไปๆ มา หลงกันไปทีละคนสองคน แต่เป็นอันรู้กันว่า ต่างคนก้อต่างไปเก็บเกี่ยว กันเอาเอง แล้วกลับไปเจอกันยังจุดนัดหมายที่พัก เพื่อเตรียมตัวไปสนามบินซางฮี 
เพื่อบินกลับไทย ตอนบ่ายสอง อิอิอิ



เบา เบา ด้วยวัดจีนก่อนเลย เป็นวัดพระธาตุเขี้ยวแก้วแหละ ใกล้ๆ วัดจีนจะมีห้างอยู่
 เดินไปกินข้าวมันไก่สิงค์โปรได้ ถ้าใครอยากกิน แต่เราไม่อยากกิน 
เพราะ ข้าวมันไก่บ้านเราอร่อยกว่า ล้านเท่า เลย อิอิอิ


กลับมาต่อวัดแขก เข้าไปได้ไม่เสียตังค์ แต่จะถ่ายรูปข้างใน เขามีค่ากล้องด้วย 
เราไม่อยากถ่าย เลยถ่ายแค่ข้างนอกก้อพอ หมดงบแว้วววว


ต่อในย่านใชน่าทาวน์ จะมีพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ ก้อไปดูสักนิดหน่อย กลางวันในย่านใชน่าทาวน์ 
จะเป็นตลาดคนเยอะแยะเลย หลายตรอกซอกซอยแแหละ สามารถหาซื้อของฝาก ไรต่อไรได้ที่นี่เลย ทริปนี้เราเก็บแค่ย่านใชน่าทาวน์ แต่คราวหน้า จะไปย่านอื่นดูบ้างนะ ยังเหลืออีกหลายย่าน เลย อิอิอิ



เรากลับมาอาบน้ำ เก็บข้าวของ อำลา แบรรี่เบสท์กันหน่อย อิอิอิ ตามประสา คนบ้าแอ๊คชั่น 5555 
ก่อนจะไปสนามบิน แต่วันนี้ ต่างคนต่างบิน มีเรากะพี่จู หนุ่มน้อยสุดในทริป กลับกัน สองคนตามเวลาเดียวกันด้วยแอร์เอเชีย ที่เหลือก้อกระจัดกระจายไปคนละไฟลท์ คนละ ลำ คนละเวลา 
แต่จุดหมายเดียวกัน คือบ้านเกิดเมืองนอนของเรา คิดถึงแผ่นดินแม่จัง ไม่มี่ที่ไหนแล้วนะ 
ที่จะสุขสบายเท่าเมืองไทย .............ฟันธง



ทริปนี้ ไม่มีคำใดจะเอ่ยออกมา แต่เราก้อได้มิตรภาพ และความเป็นเพื่อนกลับมาด้วยแทน 
การท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องหรูสุด เว่อร์สุด หากแต่ เราพอใจกับเส้นทางที่เราไป มันก้อคงทำให้เราเก็บไว้เป็นความทรงจำ ที่คงจะยากจะลืมเลือน ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว 
แต่เราเชื่อนะว่า โลกนี้ไม่เคยมีอะไรบังเอิญ 
บางทีสักวันคุณกับเรา อาจจะได้เจอกันบนเส้นทางที่ไหนสักแห่งก้อได้นะ




ผู้เขียน
ดอกไม้่ทะเลทราย
เราพบกันเพื่อจาก  แม้จะอาวรณ์เพียงใด 
คงเอ่ยได้ เพียงคำลา


แบ่งปันประสบการณ์การค้นหาตัวตน ได้ที่นี่